วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Singapore ( Singapore )




Singapore Singapore )










             ทริปในครั้งนี้ จะขอพาไปเที่ยวประเทศเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความเจริญและทันสมัย นั้นคือ สิงห์หะ เอ้ย! นั้นมันเบียร์  สิงห์บุรี เอ้ย! อันนี้จังหวัด  สิงคโปร์ เอ้ย! ถูกแล้ว   เวลาท้องถิ่นของที่นี่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงครับ และภาษาที่นี่ใช้กัน 3 ภาษา มี อังกฤษ จีน และมาเลย์(แขก) ครับ ข้อดีของที่นี่ คือ บ้านเมืองสะอาด เดินทางสะดวก รสชาติอาหารพอได้ ของบางอย่างราคาถูกกว่าไทย ข้อเสีย คือ ค่าครองชีพแพง   

 บอกเลย ทริปนี้เกิดเรื่องซวยอีกจนได้ ซวยยังไงนั้น ไปชมกันเลยครับ

                 *** ทริปนี้ เลือกใช้กล้องหมวดหลอกตา ทำให้ถ่ายออกมาดูดีกว่าของจริง 90% ( คนก็ด้วย ) ดังนั้น ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม


ーรีวิวตามแบบฉบับของกุ ดูเพื่อความบันเทิงー

  อัตราแลกเปลี่ยน


   20  THB
   =    0.79  SGD
     1  SGD
  =    25.25 THB




เงินสิงคโปร์ดอลล่า


เหรียญสิงคโปร์ดอลล่า


          2 พ.ย. 2559 เวลา 08:15 น. เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง สู่ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี เวลา 11:30 น. พอลงจากเครื่อง และตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ ก็เดินหาท่ารถรับ-ส่ง ไปยังตัวเมือง  หรือใครจะเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้าก็ได้นะครับ แต่อาจจะไม่ค่อยเห็นบ้านเมือง ทิวทัศน์สองข้างทางเหมือนรถเมล์นะครับ ครั้งนี้แลกเงินจาก ซุปเปอร์ริส ไว้แล้วครับ แลกมา 5,005 ฿ ได้  199 SGD  





      



แผนที่ บริเวณที่พัก และแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ




ภายในอาคารสนามบินชางงี




ท่ารถ รับ-ส่ง จากสนามบินสู่สถานที่ต่างๆ




มาแล้วๆ สาย 36




                    จากสนามบินชางงี ขึ้นสาย 36 ไปลงที่ป้าย Suntec Twr Three จะเห็นวงเวียน SUNTEC CITY ( ไม่ต้องกลัวว่าจะเลยป้าย เพราะที่นี่มีป้ายชื่อกำกับอยู่ทุกป้ายครับ ) จากนั้นให้เดินไปทางซ้ายมือนิดหน่อย ก็จะเห็นรถไฟใต้ดิน สถานี Promenade ให้ขึ้นมาลงที่สถานี Chinatown ได้เลยครับ ***อย่าลืมแลกเศษเหรียญเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะถ้าขึ้นรถเมล์ที่นี่ พนง.ขับรถจะไม่มีทอนนะครับ โดนมาแล้ว ค่ารถ 2.50 SGD ให้แบงค์ SGDไป  
                         
 คนขับ  : ไม่ทอนนะครับ
 กุ          :  อ้าว!!!    เหวอเลยดิ  เลยเลยตามเลยไป




วงเวียน SUNTEC CITY




 สถานี Promenade





สายรถไฟฟ้า เส้นต่างๆ 



วิธีการซื้อตั๋ว

                ก็ไม่ยากเลยครับ ให้ดูชื่อสถานีที่เราจะไปตรงแผนที่ แล้วมากดที่คำว่า ชื่อสถานี ตรงตู้ เลือกชื่อที่จะลง ใส่เงินที่ตู้ รอรับบัตร เป็นอันเสร็จครับ เวลาขึ้นก็ดูป้ายตามสีเอาเลยครับ แต่บัตรของที่นี่เวลาเข้า-ออก ใช้แตะบัตรเอาครับ ดังนั้น บัตรของที่นี่จึงสามารถเอามาเติมใช้ใหม่ในครั้งต่อไปได้ครับ  แล้วถ้านำบัตรกลับมาใช้ใหม่ครบ 6 ครั้ง จะสามารถใช้เป็นส่วนลดได้อีก 10 เซ็น ครับ ( เจ๋งโคตรอะ )





ตู้จำหน่ายบัตร



หน้าตาตั๋วรถไฟ






        รถไฟที่นี่ดีอย่าง มีป้ายบอก การเปิดประตูฝั่งไหนด้วย เพื่อที่จะได้ ไม่ต้องมีคนหลงยืนรอออกผิดฝั่ง 





                    เมื่อถึงสถานี Chinatown แล้ว ก็ต้องเดินหาที่พัก ที่ได้จองเอาไว้ในบุ๊คกิ้ง ( ไม่ได้โฆษนาให้นะครับ แล้วแต่เลยครับ ใครชอบจองของแบนด์ไหน เอาที่สบายใจ ) เพื่อทำการเช็คอิน คืนนี้จึงเลือกพักที่รร.  Backpacker's Inn Chinatown ครับ  อยู่ใกล้สถานี ร้านอาหารและที่ท่องเที่ยวหลักๆ สะดวกสบายดีครับ





ตึกในย่านนี้ จึงมีความเป็นจีนๆอยู่ครับ 








ด้านหน้าตึก สำหรับให้ทำการเช็คอินเข้าพัก  



ด้านหน้าตึกสำหรับที่พัก




 ที่พักเป็นเตียง 2 ชั้น ห้องน้ำรวม







            ส่วนเรื่องปลั๊กไฟของที่นี่ ใช้กลับอุปกรณ์ไฟฟ้าของไทยไม่ได้ครับ ถ้าสังเกตุดีๆ ปลั๊กตัวเมียรูจะห่างกันมาก ทำให้เสียบปลั๊กตัวผู้เข้าไปไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องหาซื้อหัวปลั๊กมาใช้เสียบชาร์ตไฟมือถือเอาเองครับ แต่กุแอบขโมยใช้ของเตียงคนข้างล่างเอา ประหยัดเงินดี ( เรื่องของเรื่อง คือ เจ้าของไม่อยู่ เลยยืมมาใช้ชาร์ตแบตก่อน แต่ถ้าเขาเข้ามาก็จะทำเป็น "ขอโทษนะครับ ขอยืมอันนี้หน่อยนะครับ" )อ๊าาา ต้องอยู่ให้เป็นครับ บอกเลยสมัยนี้...










                     หลังจากเช็คอินรร. และพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเดินชมบ้านเมือง และหาอะไรกิน  อาหารแถวนี้ ก็จะออกแนวจีนๆครับ ( ก็ใช่สิ พักอยู่โซนไชน่าทาวน์นิ ถ้ามีแต่อาหารฝรั่งนี่สิ แปลก! )  ถ้าเดินเลยตรงไปทางวัดแขก จะมีซอยของกิน และของฝากอยู่ครับ  ราคาอาหารที่นี่ อยู่ที่ 80-100 กว่าบาทครับ ส่วนน้ำดื่มก็แพงใช่ย่อย ตกอยู่ที่ 25-100 บาท 

     ทิป : ควรพกขวดน้ำลิตรมาจากไทย ขอแบบขวดเปล่านะครับ ถ้าใส่น้ำมาจะโดนคนตรวจตรงเครื่องสแกนยึด นำแอบไว้ในกระเป๋า พอผ่านเข้ามาได้แล้ว ที่นี้แหละสบาย กรอกน้ำดื่มในสนามบินได้เลย มีอยู่หลายที่  ส่วนรร.ที่ นี่พักมีน้ำแท็งให้กินด้วย เลยกรอกเก็บไว้กิน  แต่ทริปครั้งก่อนๆโง่ครับ โดนยึดตลอด  เลยหมดกับค่าน้ำดื่มไปเยอะ...








ร้านนี้ครับ ที่แวะทานข้าว




มื้อแรก จัดไป ข้าวมันไก่สิงคโปร์ ไก่เขานุ่มมากครับ ต้องลอง

ราคาจานละ 4 SGD




                   หลังจากกินข้าว และเดินดูของเสร็จแล้ว จึงขอแวะซื้อตั๋ว Gardens by the bay  จะเป็นแนวประมาณสวนพฤกษชาติครับ  ถ้าซื้อตั๋วที่บริษัทนี้ จะเหลือ 18 SGD แต่ถ้าไปซื้อที่หน้างานราคาจะแพงครับ ประมาณ 28 SGD   แนะนำให้ซื้อที่นี่ดีกว่า ถูกกว่ากันตั้ง 10 SGD ครับ แต่ถ้าใครมีกะตังเหลือใช้หน่อย ให้ไปซื้อหน้างานได้เลยครับ ( ประชด )  และที่นี่มีพนักงานขายเป็นคนไทยด้วยนะ แต่กุซื้อกับคนสิงคโปร์ พอดีพี่เขาติดขายบัตรกับคนไทย อีกคนอยู่ ในนี้ก็จะมีขายบัตรเข้างานหลายที่อยู่ครับ เช่น universal studio singapore ฯลฯ ส่วนวันที่เข้าชมสถานที่ ในบัตรไม่ได้มีระบุไว้ครับ ฉนั้นอยากจะเข้าวันไหนก็ได้ครับ ตามสบายเลย ร้านนี้หาไม่ยากครับ (แต่กุหานานอยู่ ) อยู่ชั้น 3 ชื่อบริษัท Sea Sheel Travel อยู่ตรงข้ามกับตึก  Chinatown point ครับ







ด้านหน้าบริษัทจำหน่ายตั๋วเข้าชม



หน้าตาตั๋วเข้าชมงาน



                   เมื่อซื้อตั๋วได้แล้ว ก็ขอแวะเที่ยวจุดแลนด์มาร์คของที่นี่สักหน่อย นั้นก็คือ Merlion ครับ เดินไปไม่ไกลมาก แต่ก็ได้เหงื่ออยู่ ( ที่จริงจะนั่งรถเมล์ไป แต่ไม่รู้สายไง เลยเดินเอานี่แหละ เดินชมบ้านเมืองเขาไปด้วย )  สองข้างทางก็จะเห็นตึกแปลกๆ เยอะแยะเลยครับ








ถึงแล้วววว  Merlion


                             



กุติดโบว์ดำ เด่นขนาดนี้ ยังมีคนไทยมาขอให้ช่วยถ่ายรูปให้ แต่เสือกพูดอังกฤษกับกุอีก กุเลยสปีคกลับไปสิ
 






ตอนกลางคืน ก็สวยไปอีกแบบครับ







                        หลังจากแอคท่าถ่ายรูปกับ Merlion  เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเดินกลับมาที่พัก และออกไปหาไรกินกับชอปปิ้งต่อครับ







แวะซื้อกะหรี่ปั๊บกับปลาเสียบไม้ชุปแป้งทอดมากิน อร่อยดีแหะ โดยเฉพาะกะหรี่ปั๊บแป้งมันนุ่มมาก กัดที "ยวบบบบ"









                   จากนั้นก็เดินชอปปิ้งสักหน่อย เพื่อเป็นการย่อยอาหารไปในตัว  พอชอปเสร็จแล้ว ก็กลับมาพักที่รร. เก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้ต่อ...   เช้าวันรุ่นขึ้น อาบน้ำแต่งตัว ทำการเช็คเอ้าค์ และหามื้อเช้ากินครับ  หนีไม่พ้น fast food เหมือนเดิมสะดวกดี




มื้อเช้าที่ Mc Donald's ราคา 5.6 SGD



                           พออิ่มจากมื้อเช้าแล้ว ก็เดินทางไปชมสวนพฤกษชาติต่อ โดยนั่งรถไฟใต้ดิน สถานี Chinatown มาลง ที่สถานี BayFont ครับ จากนั้นให้เดินตามป้ายบอกทางมาได้เลยครับ มีบอกไว้อยู่ "Gardens by the bay" พอเดินออกจากสถานี BayFront แล้ว ให้เดินมาเรื่อยๆ  จะมีป้ายบอกทางอีกเช่นกันครับ มันจะเขียนไว้ว่า Flower Dome กับ Cloud forest เดินตามป้ายบอกทางมาได้เลยครับ





ทางเข้าโดมดอกไม้



                     วันนี้เสือกเจอกับกลุ่นนักเรียนทัศนศึกษาอีก วิ่งกันให้แซ็ดเลยนะ "เด็กเปรต" ( กุด่าในใจนะ )  แต่มารยาทเด็กที่นี่ก็ดีอย่าง จะคอยหลบๆถ้าเห็นว่ามีคนถ่ายรูปอยู่    ส่วนอุณหภูมิข้างในโดม เย็นสบายดีครับ โชคดีที่ใส่เสื้อกันหนาวมา ถามพนักละ ว่าในนี้กี่องศา แต่เหมือนมันจะฟังกุไม่รู่เรื่อง แล้วพูดไรก็ไม่รู้ เดาๆเอาว่าน่าจะประมาณ 14-18 องศาครับ








อ๊ะ! อิไต้ๆ










อันนี้ Lion บก 





ทางเข้าโดมน้ำตก



ประตูเปิดปิดอัตโนมัติ  แล้วลืม เอามือจะไปดันมัน ว่าวเลยกุ  ดีนะข้างหลังกุไม่มีคนเดินตาม ไม่งั้นได้หน้าแตกแน่ๆ






สูงมาก หนาวด้วยข้างใน






เสียวไหมๆ






ข้างในตึกน้ำตก ก็จะมีการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ









                  เมื่อได้เข้าชมทั้ง 2 โดมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาเดินเล่นที่ห้าง The Shoppes ต่อ ห้างนี้จะอยู่ตรงข้างกับสวนเลยครับ  จะมีทางเชื่อมลอยฟ้าระหว่างสวน by the bay กับ ตึก Marina bay sands เดินตรงเข้ามาได้เลยครับ ห้างนี้อารมณ์ประมาณ Siam Paragon บ้านเราเลย 



ภายในตึก Marina Bay Sands








                  ถ้าสังเกตุให้ดี จะเห็นเหรียญในน้ำเต็มไปหมดเลยครับ ตอนแรกคิดว่า เขาให้โยนเหรียญจากบนสะพานลงมาในน้ำได้ เลยลองโยนดู..แต่มันไม่ใช่เลย!!! 


1 2 3 จ๋อม



ตรงนี้ตากหาก ที่เขาให้โยนเหรียญ ถ้าโยนแล้ว เหรียญมันกลิ้งตกที่รูตรงกลาง แล้วมันจะได้อะไรกุก็ไม่ทราบเหมือนกันนะ แต่เห็นคนเขาเล่นกันเยอะอยู่


ส่วนเหรียญที่ไม่ได้ตกลงในรู พอทางห้างเปิดน้ำวน เหรียญก็จะไหลตกลงมาตามรูเหมือนกัน จึงทำให้เราได้เห็นเหรียญในน้ำเยอะแยะอย่างที่เห็น

ด้านหลังของห้าง The Shoppes





วิว ตรงด้านหลังของห้าง



แวะพักกินขนมสักหน่อย เหนื่อย!!!




ย่ะ ฮู้ !!!



 


พึ่งจะเคยเห็นเด็กแว้น สิงคโปร์





ในห้างนี้ มีบ่อนคาสิโน ด้วยนะ


                  เมื่อยังพอมีเวลาเหลืออยู่ จึงแวะไปเดินเล่นที่ตลาดย่าน Bugis street เส้นทางไปก็ไม่ยากครับ นั่งรถไฟใต้ดิน ในตัวห้าง สถานี Bayfront ลงที่ สถานี Bugis จากนั้นให้เดินออกตรงทางออก ที่ป้ายระบุว่า "Bugis+ " ก็จะเจอ Bugis street อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยครับ   คล้ายๆมาบุญคลองบ้านเราเลย 






ร้านขนมแปลกๆ หน้าตาคล้ายๆอาหารปลาดุก เอาไปทำให้มันเย็นจัดๆ พอกินแล้วจะมีควันออกมาจากปาก 




ร้านขนมของฝาก ราคาถูก มีพรีเซ็นเตอร์หน้าร้านด้วย





แวะกินเบอร์เกอร์ปลา มีชีส มีไข่ ราคา 3 SGD






กล้วยกับสตรอเบอรี่ปั่น รสชาติเหมือนอ้วกหมา อร่อยดี ราคา 1 SGD





                 หลังจากเดินตลาดย่าน Bugis เสร็จแล้ว ก็กลับมานั่งเล่นที่สวน by the bay ต่ออีกรอบ เพื่อรอชมแสงไฟ ในช่วงหัวค่ำ  นั่งรออยู่นานเลยแหละกว่าทางสวนจะเปิดไฟให้ได้ชม มีคนรอชม เยอะอยู่เหมือนกัน...










                    และแล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง...        และจุดพีคก็อยู่ตรงช่วงนี้เช่นกัน  คือ เวลาเครื่องออก 2 ทุ่มครึ่ง แต่ ณ ตอนนั้น เป็นเวลา 1 ทุ่ม 5 นาที ซึ่งยังถ่ายรูปอยู่ในสวนอยู่เลย คิดในใจว่า คงทันหน่าาาา เดินทางไปสนามบินแค่ครึ่งชั่วโมงเอง แต่ก็กังวลอยู่เหมือนกัน เลยรีบๆถ่าย แล้วก็วิ่งมาถ่ายภาพวิวตึกอีกฟาก ตรงข้างหลังห้าง The Shoppes 



















                  ภาพนี้ คือ ภาพที่วิ่งมาถ่าย อยู่ด้านหลังของห้าง The Shoppes  พอถ่ายเสร็จ ก็ต้องรีบวิ่งมาขึ้นรถไฟใต้ดิน เพื่อให้ทันเช็คอินขึ้นเครื่องที่สนามบินชางงี ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนขบวนอีก 2 ที่ ทำให้เสียเวลามาก ตอนนั้นคือแบบลนลานอ่ะบอกเลย นั่งอยู่บนรถไฟ ใจนิเต้นตึกๆอ่ะ กลัวตกเครื่องมากกก เพราะจะ 2 ทุ่มแล้วแต่ยังไม่ถึงสนามบินเลย  นึกในใจ คือ เหี้ยแล้ว ตายแน่ๆเลยกุ สรุปถึงสนามบิน 2 ทุ่ม 15 นาที แล้วคือ สนามบินใหญ่มาก และก็ไม่ได้มีแค่ตึกเดียวนะ มีทั้งหมด 3 ตึก  แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะต้องไปที่ตึกไหน ตอนนั้นมั่วมาก รีบจนแบบจะช็อคตายอ่ะ พอไปถามพนักงานเสร็จ ก็ต้องรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน และแล้วความซวยก็มาเยือน พนักงานสายการบินบอก "คุณสายไปแล้ว" ตอนนั้นอยากร้องให้มาก เบลอไปหมด บ่นกับตัวเองเป็นคนบ้าเลย ( แล้วลองนึกภาพดูนะ ผู้ชายตัวผอมๆ สะพายกระเป๋าใบใหญ่ๆ วิ่งหน้าตาตื่น มันน่าขำ และน่าสงสารขนาดไหน ) แต่ดีนะที่ยังเหลือเงินจากการเที่ยวอยู่นิดหน่อย เลยต้องซื้อตั๋วใหม่ จากปกติกลับของ lion air เปลี่ยนเป็น air asia แทน  ( ถามว่าคุ้มไหม กับภาพที่ได้ ...ตอบเลยว่าไม่  2,500 นี่เอาไปซื้อตั๋วโปร ไป-กลับ สิงคโปร์ได้อีกรอบอ่ะ  เซงมาก เซงเชี้ยๆ  )  พอกุเห็นคนลากกระเป๋าวิ่งในสนามบินนิ เข้าใจหัวอกเขาเลย ว่ามันรู้สึกอย่างไง...  3 พ.ย. 2559 เวลา 12:10 น.เดินทางถึงไทย ปลอดภัย ไชโย !!!



                 

                               สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้
                        
                              ค่าเครื่อง               1,661 ฿
                              ค่าควาย                2,450 ฿
                              ค่ารถ                       248 ฿     
                              ค่าน้ำดื่ม                    25 ฿
                              ค่ากิน                      502 ฿                       
                              ค่าเข้าชม                450 ฿
                              ค่าที่พัก                   502 ฿
                              ค่าช็อป                   773 ฿


                                               ยอดรวม  6,611 ฿  
                                        
                                ( ถ้าไม่มีค่าควายนะ เหลือเงินกลับมาใช้ที่ไทยชิลๆ ตั้ง 2,500
 บาทแหนะ พูดแล้วอยากตบกบาลตัวเองว่ะ T_T )



    ต้องลองเที่ยวคนเดียวดู...แล้วคุณจะติดใจ



มีอะไรสงสัย หรืออยากจะถาม คอมเม้นท์มาได้เลยนะคับ จะตอบกลับให้ครับ

つづく


see you next the trip

3 ความคิดเห็น: