Vietnam ( Hanoi The End )
ความเดิมตอนที่แล้ว http://travelling-single.blogspot.com/2016/06/vietnam-hanoi-city.html
เมื่อนอนรถทัวร์มาถึงซาปาแล้ว เวลาประมาณตี 3 คนขับจะให้ลูกทัวร์นอนต่อในรถเลยจนถึงเช้า พอฟ้าสว่างคนขับก็เรียกทุกคนให้ตื่น พอลืมตา มองออกนอกหน้าต่าง เฮ้ย!!! เกิดอะไรขึ้นทำไมชาวเขามามุงรถกันเยอะจังวะ ที่แท้แล้ว พวกเขาจะมาขายของบ้าง เรียกนักท่องเที่ยวให้ไปพักโรงแรมบ้าง ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษกันเก่งมาก (เก่งกว่ากุอีก ) ตอนที่ลงจากรถครั้งแรก ตกใจมาก เหมือนมีคนเปิดแอร์ไว้ข้างนอกรถเลย อากาศเย็นมาก ถึงขั้นหนาวหน่อยๆ จากนั้นก็เดินหาโรงแรมด้วยแผนที่ที่เตรียมมาเหมือนเดิม...
อีหมา มึงอย่ามาทำตัวน่ารักให้มากนะ เดี๋ยวมึงจะโดนเขาแดก |
มารอเช็คอินโรมแรมตอนเช้า เลยจัดเบอร์เกอร์ซาปา ก่อนสักชิ้น รสชาติใช้ได้เลยแหละ ไม่รู้ว่าชื่ออะไร (ลืมถาม ) สนนราคาที่ 25,000 ดอง อิ่มไปสำหรับมื้อเช้า หลังจากนั้นก็ไปเช็คอินเข้าโรงแรมต่อ พร้อมอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย แล้วก็ออกมาเดินเล่นชมเมืองซาปาอีกสักรอบ...
และรูมเมท |
กองทัพต้องเดินท้อง มื้อเที่ยวเลยต้องแวะกินเฝอ อาหารขึ้นชื่อของเวียดนามสักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่ถึง ราคาอาหารก็ไม่แพงมากนัก เฝอ 45,000 ดอง หอยทะเลม้วนทอด 35,000 ดอง คนเวียดนามเวลากินข้าวเสร็จ ต้องแคะฟันกันเกือบจะทุกคน (แลัวมันแปลกตรงไหน มึงไม่เคยแคะไง )เห็นแล้วแทบอิ่ม ทั้งเสียงแจะ เสียงจุ เสียงจิ ส่วนเจ้าของร้านพูดจาดีมากกกก (คงเห็นเราหน้าตาดีมั้ง อิอิ ป่าวหรอก เขาได้ตังจากกุไง เลยต้องพูดจาดี ) พอนั่งคอยอาหาร ก็สั่งน้ำมา ขวด พอพนักงานเอาน้ำมาเสิร์ฟ แม่ง ไม่มีแก้วให้กุเลย รู้ได้ไงเนี้ย ว่ากุชอบกระดกขวดแดก...แต่อยากจะบอกว่า เฝอรสชาติหมาไม่แดกมาก (แต่กุแดกไปแล้ว หมดด้วย ) ผิดกับหน้าตามึงมาก เห็นแล้วนึกว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำ...
พอตกเย็น เดินชมซาปามาทั้งวันแล้ว และมีความหิวเล็กน้อย ก็เลยต้องลองชิมอาหารของที่นี่ดูสักหน่อย คือของย่าง ราคาไม่แพงเลย สั่งมา 3 ไม้ 25,000 ดองเอง ชอบที่สุดเลย คือข้าวโพดย่าง หอมมากกก...
จบไปอีกวัน สำหรับเมืองซาปา
วันรุ่งขึ้น รีบตื่นมาเพื่อที่จะขึ้นเขามาดูหมอกในยามเช้า แต่ก็ต้องผิดหวังมาก เพราะมันไม่มีหมอกให้เห็นเลย แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่ายังสวยอยู่ มีลมพัดเย็นๆ ชื่นใจมากกกกกก อากาศที่นี่ 16-22 องศา ตลอดวัน...
อาหารเช้าของโรงแรม เป็นบุฟเฟ่ด้วย แดกอย่าได้หยั้งครับ งานดี |
หลังจากเดินเล่นตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็กลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรม และพักผ่อนสักงีบ พอสัก 11 : 00 โมงเช้าก็ตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ส่วนสัมภาระยังคงฝากไว้กับทางโรงแรมอยู่ เพราะเรายังคงต้องเที่ยวต่ออีกวัน เป้าหมายต่อไปที่จะต้องไปเยือน คือหมู่บ้าน แคท แคท (ไม่รู้ว่า เรียกถูกหรือป่าวนะ )
ช่องขายตั๋ว สนนราคาค่าเข้าชมคนละ 50,000 ดอง |
ทางลัดลงไปน้ำตก |
เด็กๆชาวเขา วิ่งไล่จับ ผีเสื้อ กัน |
กังหันน้ำ ชาวเขา |
นาขั้นบันได เสียดายที่มันยังไม่เหลือง |
อีนางแมว มึงมองเหมือนเกลียดกุเลยนะ |
เด็กชาวเขาส่วนใหญ่เวลาขอถ่ายรูปด้วยจะหลบ กลัวกล้องกัน แต่ไม่เลยกับไอ้ 2 ตัวนี้ สู้กล้องมาก แถมยังเอานิ้วมาจิ้มๆ กล้องกุอีก |
ตอนแรกที่เห็น คือดีใจมาก ได้เห็นแพะป่าด้วย |
สรุป อีห่า ใม่ใช่เลย เด็กเลี้ยงแพะ พามาแดกหญ้า โถ่กุ อุตสาห์หลงดีใจ |
ถ้าเหลืองเต็มทุ่งนา นี่คงจะสวยน่าดู |
คนเวียดนามที่มาเที่ยวสาปา พวกเขามักจะซื้อขนมมาแจกเด็กๆชาวเขากันด้วย นั่งสังเกตุมาหลายคนและ ก็เป็นอะไรที่น่ารักดี เด็กๆที่นี่จะได้ไม่ต้องเสียเงิน ไปกับค่าขนม วันๆหนึ่งเด็กๆที่นี่จะได้ขนมกลับไปกินที่บ้านกันเป็นถุงๆ แต่ตอนแรกที่เห็นเขาแจกขนมให้เด็กๆ คิดว่า สส. มาลงพื้นที่หาเสียง (ที่ไหนได้ อ้าว! ไม่ใช่นิหว่า กุคิดผิด ) แต่ก็เจ๋งดีแหะ ชอบๆ
หลังจากที่ได้เที่ยวมาหลายที่ของเมืองซาปาแล้ว ก็รู้สึกหลงรักที่นี่มากกกกก ทั้งธรรมชาติ ทั้งอากาศ และผู้คนที่นี่ สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะกลับมาซาปาอีกแน่ๆ ก่อนกลับก็ไม่ลืมที่จะเดินเล่นชมเมืองซาปาและหาอะไรกินสักเล็กน้อยก่อนจะกลับฮานอย...
ชอบมากของย่างที่สาปา เลยจัดมาอีก 3-4 ไม้ ก่อนกลับฮานอย |
สักภาพ ก่อนกลับฮานอย |
ผมได้ซื้อตั๋วรถนอนกับทางโรงแรมไว้ใน ราคา 250,000 ดอง และเมื่อนอนรถบัสออกจากซาปาตอน 4ทุ่ม ถึงฮานอย เวลาประมาณตี 3 แต่แม่งเอาลูกทัวร์มาทิ้งไว้ตรงส่วนไหนก็ไม่รู้ของตัวเมืองฮานอย กุเลยต้องเดิน หาป้ายรถเมล์เพื่อที่จะต่อไปสนามบินด้วยตัวเอง ทั้งมืด ทั้งเปลียว รถแท็กซี่ก็มีนะ แต่ไม่ขึ้นหรอก ไกลจะตายกว่าจะถึงสนามบิน ไม่ล่อเป็น 4-500,000 ดอง เลยรึ เลยเดินแบบไม่รู้จุดหมายปลายทาง เดินแบบมั่วๆ ถามคนกวาดถนน เขาก็ไม่รู้เรื่องส่ายหน้าอย่างเดียว ก็เลยใช้วิชาลูกเสือที่เคยร่ำเรียนมา คือ เราต้องเดินตามถนนที่มีรถสัญจรไปมา (กุมั่วถูกเองแหละ ไม่ใช่อะไรหรอก 555) หลังจากที่เดินตามทางมาได้สักพัก ก็ได้เห็นสถานีรถทัวร์ ซึ่งเป็นอะไรที่โชคดีมาก เลยหยิบมือถือมาเปิดไวไฟฟรี เพื่อจะดูว่าตอนนี้กุอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ ซึ่งก็ได้รู้ว่าต้องเดินไปอีกไม่ไกลมากนัก ก็จะเห็นสถานีรถเมล์ใหญ่ คล้ายๆอนุสาวรีย์บ้านเรา แห่งรวมสายรถเมล์ ตอนที่นั่งรอรถ เป็นเวลาตี 4 กว่าจะมีรถมาก็ต้องรอถึงตี 5 และเมื่อเวลามาถึง รถเมล์สายที่ต้องการก็มา ดีใจมาก ส่วนสายรถเมล์ที่นั่งไปถึงสนามบิน คือ สาย86 เหมือนเดิมกับขามา และนั่งมาจนถึงสนามบิน 15 มิ.ย. 59 เดินทางกลับไทย ปลอดภัย ไชโย!!!
สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้
ค่าเครื่องบิน 1,600 ฿
ค่ากิน 410 ฿
ค่ากิน 410 ฿
ค่าโรงแรม 600 ฿
ค่ารถ 775 ฿
ค่าน้ำดื่ม 400 ฿
ค่าเข้าชม 145 ฿
ค่าช็อป 355 ฿
ค่าโง่ 780 ฿
ยอดรวม 5,065 ฿
( ค่าทุกอย่างปัดเป็นจำนวนเต็ม )
*****ทริปนี้ ไม่มีอะไรแพงเท่าค่าโง่กุอีกและ สัส*****
ต้องลองเที่ยวคนเดียวดู...แล้วคุณจะติดใจ
มีอะไรสงสัย หรืออยากจะถาม คอมเม้นท์มาได้เลยนะคับ จะตอบกลับให้ครับ
つづく
see you next the trip
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น