Vietnam ( Hanoi )
สวัสดีครับ ขอกล่าวทักทายสำหรับคนที่ติดตามอ่านบล็อกท่องเที่ยวนี้ก่อนสักเล็กน้อยแล้วกันนะคับ หลังจากครั้งที่แล้ว ที่ได้ไปเยือนพม่ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(พูดเหมือนเป็นนักการทูตเลยเนอะ) เลยติดใจในการเที่ยวต่างประเทศคนเดียวมาก ครั้งนี้เลยมาขอเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวในเวียดนาม ให้ฟังกันคับ เริ่ม!!!
12 มิ.ย. 59 เวลา 06 : 45 น. เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ถึงสนามบินนอยไบ โดยเวลาประมาณ 07 : 25 น. พอเครื่องลงจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินหาที่แลกเงินในสนามบิน ผมพกเงินติดตัวไป 140$ (งบน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด) แลกได้ประมาณ 3,100,000 กว่าดอง (ได้จับเงินล้านแล้วโว๊ยยย ถึงจะไม่ใช่เงินบาทก็ช่าง อิอิ) จากนั้นก็ออกมานั่งรอรถเมล์เข้าเพื่อในตัวเมืองฮานอย รถสาย 86 ราคาตั๋วรถเมล์ 30,000 ดอง
ーรีวิวตามแบบฉบับของกุ ดูเพื่อความบันเทิงー
อัตราแลกเปลี่ยน
20.00 THB | = 12,600 VND |
20,000 VND | = 31.75 THB |
เงินดอง เวียดนาม |
สภาพภายในรถเมล์ |
จากสนามบินถึงตัวเมืองฮานอยใช้เวลาประมาณ 40 นาที เมื่อถึงตัวฮานอยแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำ คือ... หยิบแผนที่ ขึ้นมาเบิ่งเด้ ขอบอกว่า ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ปลิ้นแผนที่จากพี่กูเอง(กูเกิ้ล) เพราะตอนเที่ยวจะไม่มีเน็ตใช้เลยต้องทำแบบนี้ครับ ตอนแรกยังไม่รู้หรอกว่าเรายืนอยู่ตรงไหนของแผนที่ เน้นถามทางจากพี่ตำรวจบ้าง คนแถวนั้นบ้าง และเมื่อรู้แล้วว่า เรายืนอยู่ตรงไหนของแผนที่ แล้วจะรออะไรละครับ ลุยโลด!!! เดินเล่นสำรวจเมืองฮานอยไปเรื่อยๆ เห็นที่ไหนสวยๆก็แวะถ่ายรูป...
ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม |
วัดนี้เก็บค่าเข้าคนละ 30,000 ดอง |
วัดหง็อกเซิน |
สุสานโฮจิมินห์ |
ทำเนียบประธานาธิบดี |
ศาลนี้เก็บค่าเข้าคนละ 10,000 ดอง |
เมื่อเดินเยอะๆ ท่ามกลางแดดร้อนๆ เหงื่อก็ออกมามากเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น น้ำ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ขาดไม่ได้ ซึ่งแน่นอนวันหนึ่ง ผมดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 6 ขวด (เฉพาะตอนออกทริปนะ) อย่างว่าแหละ เน้นเดินเป็นหลัก มีพี่วินเวียดนามเรียกให้ใช้บริการเยอะมาก แต่ไม่เอาชอบเดินเล่นมากกว่า (ไม่ใช่ไรหรอก ประหยัดตังด้วยแหละ) วินมอไซด์ที่นี่ต่างจากบ้านเราตรงที่เขาจะไม่มีเสื้อกั๊กใส่ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทราบกันได้ไงว่าคนไหนวินมอไซด์ คนไหนคนธรรมดา...
ตำรวจจราจร กำลังตั้งด่านจับ เหมือนบ้านเราเลย |
หลังจากที่เดินมาหลายชั่วโมง กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องถูกไหม จึงมองหาร้านข้าวแถวๆนั้น แต่ก็ไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปกินสักเท่าไหร่ (กลัวเนื้ออย่างว่าด้วย รู้ๆกันอยู่เนาะ) เลยตัดสินใจกินอาหาร จานด่วน ของที่นี่เป็นมื้อแรก...
ราคาชุดละ 77,000 ดอง |
คล้ายๆ KFC เหมือนกันเนอะ ว่าไหม |
วัดเจดีย์เตริ่นกว็อก |
บ้านเมืองเขา ต้นไม้ข้างถนนใหญ่มาก |
ตกเย็น เหงื่อไหล ไคลย้อย ขาหนีบเปียก จากการเดินสำรวจโลกมาทั้งวัน เลยเดินหาโรงแรม เพื่อที่จะอาบน้ำและพักผ่อนสักชั่วโมง ส่วนมากราคาจะอยู่ที่ 300,000-400,000 ดอง ซึ่งแค่มาขออาบน้ำไง ไม่ได้มาค้างคืน เลยไม่เอาและเดินหาต่อไป ถึงตรงนี้แล้วขอให้ต้องใจอ่านเพื่อเป็นตัวอย่างในการเที่ยวคนเดียวกันนะครับในระหว่างที่เดินหาอยู่นั้น ก็มีอีป้าหาบเร่ ชวนซื้อกล้วยกับสับปะรด เลยปฏิเสธไป แล้วหันไปมองหาโรงแรมต่อ ซึ่งอีป้าหาบเร่คนเดิมได้หยิบหมวกฮานอยที่มันใส่อยู่ มาใส่ไว้บนหัว พร้อมด้วยอุปการณ์หาบเร่มาให้กุแบก คือตอนแรก งง มึงจะทำอะไรกุ หะอีป้า
อีป้า : เดี๋ยวถ่ายรูปให้ ฟรี!!!
กุ (ไม่ได้ชอบหรอกนะ ของฟรีอะ ไม่จริง อ้าวใครพูดวะ) เลยปฏิเสธมันไป
แต่อีป้า ยังคงเน้นย้ำคำเดิม ฟรี!!!
ใครจะไม่ชอบบ้างละเนอะของฟรี เลย เออออ ห่อหมก ตกลงมันไป พร้อมส่งมือถือให้มันถ่ายรูปให้ พอแอ็คท่าได้สัก 2-3 ท่า ก็เสร็จจากงานการถ่ายแบบ (มโนและกุ ตื่น!!!)เลยได้เอาของพร้อมหมวกฮานอยคืนมันไป ซึ่งในระหว่างที่ถ่ายแบบอยู่นั้น ก็คิดนะ ทำไมอีป้ามันใจดีจังเลยวะ เดี๋ยวถ่ายเสร็จจะอุดหนุน สักถุงสองถุง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากบอก อีป้าแกหยิบสับปะหดขึ้นมา 2 ถุง เลยถามไปว่า
กุ : เท่าไหร่ครับ
อีป้า : ??????? (คือ ตอนนั้นยังไม่คุ้นกับการเรียกเงินจำนวนเยอะๆ ขนาดนั้น เลยเอ๋อๆฟังไม่รู้เรื่อง)
กุเลยควักเงินที่มี ให้อีป้ามันดู จุดพลีคอยู่ตรงนี้ อีป้าแกเล่นหยิบแบงค์ 500,000 ดอง ไปใส่ไว้ในเงินของมัน แล้วทอนเงินให้กุแค่ 3-40,000 ดอง กุคิดใจ ไม่ใช่และอีหอยแครง มึงหลอกแดกกุและ กุเลยบอกไปว่าไม่เอาแล้ว มันเลยทำหน้าตาหน้าสงสาร ซึ่งณ ตอนนั้นบอกเลยไม่สงสารอะ อีห๊าจะมาโกง กุ แล้วมันก็ยังไม่ได้คืนเงินให้ แต่ทอนให้เยอะกว่าเดิม ซึ่งกุไม่เอาแล้ว อยากได้เงิน 500,000 ดอง คืนมากกว่า ระหว่างที่ตอบโต้กันอยู่นั้น ก็มีป้าคนนึงมายืนมองอยู่ข้างๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น (ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรแล้ว นอกจากอีป้าที่โกงกุ) กุเลยฉกมือไปหยิบแบงค์ 500,000 ดอง ของกุคืนมา พร้อมกับยื่นถุงสับปะรดคืนให้ แล้วเดินหนีมันไป และป้าคนที่เห็นเหตุการณ์ก็มาพูดภาษาเวียดนาดใส่กุว่าอะไรก็ไม่รู้ เดาว่าน่าจะบ่นอีป้าหาบเร่ที่มาหาแดกกับนักท่อง แบบเหี้ยๆอย่างนี้...
ให้ชื่อภาพนี้ว่า " กล้วยเอ้ย " |
พอเดินออกจากอีป้าสับปะดล เอ้ย! สับพะโหงก เอ้ย! สับปะรด เอ้ย! ถูกแล้ว (เล่นไรของกุเนี้ย เสียเวลา ) ก็ได้โรงแรมที่จะมาอาบน้ำ ในราคา 200,000 ดอง พอตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาจ่ายตัง ควักเงินออกมาจ่าย เหี้ยยยยยยยย เงินกุหายไปไหน 500,000 ดองวะ เลยคิดไปถึงเรื่องเมื่อกี้นี้ แต่กุก็หยิบแบงค์กุมาแล้วนะ ไหนดูอีกทีสิ สัส ๆๆๆๆๆๆ กุหยิบแบงค์ผิดมา โอ๊ยยยย อยากตาย ลืมดูให้ละเอียด เห็นมันคล้ายๆกันเลยนึกว่าใช่ เบิด เบิด เบิดกันชีวิตที่เหลือในฮานอย...
ลองดู ว่ามันคล้ายกันจริงไหม ทั้งสี ทั้งรูป |
โรงแรมของที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีลิฟท์ใช้ แต่เสือกสร้างตึกสูงอีก ห่า
หลังจากที่ได้อาบน้ำและพักอีกเล็กน้อยแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางไปขึ้นรถทัวร์เพื่อมุ่งหน้าไป ซาปา แต่ก่อนที่จะไปขึ้นรถทัวร์นั้น ได้แวะเดินเล่นที่ทะเลสาบ ฮหว่านเกี๊ยม อีกครั้ง ซึ่งตอนกลางคืนนั้นผู้คนจะเยอะกว่าตอนกลางวันมาก อีกทั้งคู่รักชาวฮานอยยังนิยมกันมาถ่ายภาพเวดดิ้งที่ทะเลสาบแห่งนี้กันอีกด้วย...
มีลานให้เด็กเช่า และเล่นสเก็ตกันด้วย |
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเดินทางไป ซาปา ต่อแล้ว ก็ต้องมาเตรียมตัวรอขึ้นรถ โดยมีเพื่อนร่วมเดินไปด้วย ส่วนมากเป็นฝรั่ง ไม่ค่อยมีคนเอเชีย (ยกเว้นกุ ) ราคาตั๋วที่จองไว้อยู่ที่ 12$ จองผ่านเน็ตครับ ***แนะนำเวลาเลือกที่นอน*** ให้เลือกด้านหน้าๆจะดีมาก เวลาคนเข้าห้องน้ำในรถนี่ เหม็นแทบตาย มีฝรั่งสาวเขาคงไม่รู้ เสือกเลือกนอนข้างหลังติดกับห้องน้ำ พอมีคนเข้าห้องน้ำเท่านั้นแหละ อุทานออมาเลย โอ้ มาย กอตตตตตต...
ออฟฟิต รถทัวร์ที่จองไปซาปา |
ชื่อรถ คือ Queen cafe vip open bus |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น